เพื่อเอาใจผู้บริโภคยุคใหม่ ที่มีพฤติกรรมการใช้สื่อที่หลากหลายมากขึ้น ความชื่นชอบเฉพาะบุคคลก็แตกต่างกันเพิ่มขึ้นไปอีก เป็นปัญหาชวนคิดไม่ตกสำหรับนักการตลาดที่ต้องงัดกลยุทธ์ใหม่ๆมารองรับความพึงพอใจของผู้บริโภค

จึงเป็นที่มาของ “Personalized Marketing” หรือ “การตลาดแบบเอาใจผู้บริโภค” คือการที่แบรนด์นำเสนอสินค้า บริการ โปรโมชัน และคอนเทนต์ให้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด ด้วยการเจาะจงไปที่ความต้องการของลูกค้าแบบเฉพาะบุคคล โดยใช้ข้อมูลจากการสังเกตพฤติกรรมของผู้บริโภค

ในส่วนของพฤติกรรมของผู้บริโภคนี้ จะเชื่อมโยงไปสู่ Hyper-Personalized Marketing คือการที่นำ Big Data มาใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการ เพื่อคาดการณ์ในอนาคตว่าลูกค้ารายนี้จะต้องการซื้อผลิตภัณฑ์ต่อไปเมื่อใด และวิธีการทางการตลาดแบบใดที่แบรนด์สามารถใช้เพื่อดึงดูดความสนใจได้

Personalized Marketing จึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่นักการตลาดนิยมนำมาใช้ เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการความว่องไวและทันกระแส ดังนั้นการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการเก็บข้อมูล จะทำให้แผนการตลาดก้าวหน้าไปได้เร็วยิ่งขึ้น และตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล อีกทั้งยังช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าถึงข้อมูลของลูกค้าหลายคนได้พร้อมๆกัน โดยไร้เงื่อนไขในเรื่องของเวลา เพราะเครื่องมือการตลาดสามารถช่วยแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพในการสร้างการรับรู้ และการขายในเวลาเดียวกัน

ตัวอย่างเช่นแอปพลิเคชัน Spotify ที่มีการใช้ข้อมูลการฟังเพลงของผู้ใช้แอปพลิเคชัน ในการทำ Personalized Marketing เพื่อนำเสนอประเภทของเพลงที่ผู้ฟังชอบ เช่นเดียวกับ Netflix ที่ได้นำเสนอภาพยนตร์และซีรีส์โดยวิเคราะห์ประวัติการรับชมบนแพลตฟอร์มเพื่อดูว่าผู้ใช้ชอบภาพยนตร์ประเภทใดเป็นพิเศษ

ดังนั้น จะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การตลาดแบบ Personalized Marketing นอกจากจะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าที่ตรงจุดแล้ว ยังทำให้ลูกค้าเกิดความประทับใจต่อการนำเสนอของแบรนด์มากยิ่งขึ้นไปอีกและความประทับใจเหล่านี้จะช่วยเพิ่มความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคให้เป็นไปในทางที่ดีในอนาคตอีกด้วย