ปัญหาใหญ่สำหรับชาว UX, UI ว่าออกแบบเว็บไซต์แบบไหนให้ถูกใจคนใช้ที่สุด โดยเฉพาะในยุคนี้ ที่ไม่ว่าเว็บไหน ๆ ก็เต็มไปด้วยจำนวนข้อมูลมหาศาล สิ่งที่ยากคือจะจัดเก็บยังไงให้ข้อมูลอยู่อย่างเป็นระบบระเบียบ ภายใต้ข้อจำกัดที่ว่าผู้ใช้ต้องสามารถค้นหาข้อมูลได้ง่าย เมื่อใช้แล้วรู้สึกว่าเว็บมีความเฟรนด์ลี่ ไม่ยุ่งยาก จึงเป็นที่มาของ Infinite Scrolling และ Pagination แบบไถหน้าเว็บกับแบ่งหน้าหน้าเว็บ การออกแบบดีไซน์ไหน ถึงจะเฟรนด์ลี่ต่อ User มากกว่ากัน
เป็นการจัดข้อมูลอัตโนมัติ โดยเมื่อผู้ใช้เลื่อนหน้าจอจนสุด ระบบจะโหลดข้อมูลชุดใหม่ขึ้นมาโดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าไปมา จะเห็นตัวอย่างได้จาก Facebook หรือ Twitter หรือเว็บไซต์สมัยใหม่ ๆ ก็นิยมใช้ Infinite Scrolling กันทั้งนั้น แต่จริง ๆ แล้วมันก็มีทั้งข้อดีและเสียแตกต่างกัน ถึงจะสะดวกยังไง แต่ไม่ได้เหมาะกับเว็บไซต์ทุกประเภท
พูดง่าย ๆ ก็คือ การเลื่อนหน้าจอและโทรศัพท์มือถือเป็นสิ่งที่มาคู่กัน เนื่องจากหน้าจอมือถือมีขนาดเล็กกว่าหน้าจอเดสก์ท็อปอย่างมาก จึงสามารถแสดงเนื้อหาได้เพียงครั้งละบางส่วนเท่านั้น Infinite Scrolling เลยเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหาเหล่านี้
เพราะ Infinite Scrolling ถ้าลองแปลตรงตัวจะได้ความหมายว่าการเลื่อนแบบไม่มีสิ้นสุด และด้วยการเลื่อนแบบนี้นี่เองเมื่อเราเลื่อนหน้าจอจนสุดแล้วระบบจะโหลดข้อมูลชุดใหม่ขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ ทำให้เราค้นพบเนื้อหาใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ
ข้อดี3 สร้างความต่อเนื่อง
เนื่องจาก Infinite Scrolling คือการเลื่อน ๆ หน้าไทม์ไลน์ไปเรื่อย ๆ ผู้ใช้จึงสามารถมีส่วนร่วมกับเนื้อหาได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หยุดชะงัก ตราบใดที่พวกเขายังคงเลื่อนดูเนื้อหาต่อไป
ข้อเสีย ใช้ทรัพยากรจำนวนมาก
ปัญหาเกิดจาก Scrolling ถูกออกแบบมาสำหรับมือถือซะส่วนใหญ่ เมื่ออยู่ในโทรศัพท์เครื่องเล็ก ๆ โดยมีข้อมูลจำนวนมหาศาลทำให้มันมีความเสี่ยงที่จะโหลดข้อมูลได้ช้าลง เมื่อเราใช้ไปสักพัก ทำให้เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเกิดการหน่วง สร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน
ดังนั้นสรุปได้ว่า Infinite Scrolling เหมาะกับเว็บไซต์ที่ต้องการความต่อเนื่อง ผู้ใช้สามารถเลื่อนดูคอนเทนต์ได้เรื่อย ๆ ไม่รู้สึกเบื่ออย่าง Facebook Twitter Pinterest
Pagination
คือการแสดงผลข้อมูลด้วยการแบ่งหน้า สำหรับการแยกข้อมูลจำนวนมากให้แบ่งออกจากกัน สามารถกำหนดได้ว่าแต่ละหน้าจะมีข้อมูลอยู่เท่าไหร่ สามารถเห็นตัวอย่างได้ง่าย ๆ จากเว็บไซต์ที่ทุกคนทั่วโลกใช้อย่าง Google นั่นเอง
ข้อดี 1 Checkpoint
การหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตเป็นอะไรที่กว้างขวางมาก บางครั้งเราอาจจำไม่ได้ถึงเว็บไซต์หรือเนื้อหาที่เคยดูผ่านตาแล้วต้องการกลับไปดูซ้ำ โดยเฉพาะแบบ Scrolling ซึ่งถ้าเผลอไถเพลินแค่ครั้งเดียว ไทม์ไลน์อาจรีเฟรชใหม่จนเนื้อหาที่เราต้องการหายไป แต่กับ Pagination ระบบจะจดจำหน้าที่เราเคยเข้าไว้ ง่ายต่อการกลับมาดูซ้ำ
ข้อดี 2 เปลี่ยนหน้าได้รวดเร็ว
เพราะข้อดีส่วนนี้ทำให้ Pagination เป็นรูปแบบการออกแบบเว็บไซต์ที่เหมาะสมกับเว็บที่มีข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ต้องได้รับการจัดระเบียบได้ชัดเจน โดยไม่ต้องเสียเวลาเลื่อนหา
ข้อเสีย กดเยอะเกินไปทำให้รู้สึกเหนื่อย
ลองจินตนาการถึงข้อมูลในหน้า Google ที่มีเกือบร้อยหน้า ถ้าเราต้องกดไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาเนื้อหาที่ถูกใจ ต้องกดไปทั้งหมดกี่ครั้งและใช้เวลาเท่าไหร่ ปัญหาตรงนี้จึงเป็นปัญหาใหญ่สำหนับนักออกแบบ รวมถึงสร้างประสบการณ์ที่ไม่ดีให้กับผู้ใช้คือทำให้รู้สึกเหนื่อยอีกด้วย
ฉะนั้น Pagination จึวเหมาะกับเว็บไซต์ที่มีข้อมูลจำนวนมาก โดยเฉพาะในลักษณะของ Search Engine เพราะมีระบบระเบียบมากกว่า และง่ายต่อการค้นหาเนื้อหาและจดจำมากกว่าแบบ Scrolling นั่นเอง
